ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับบุคคลภายนอก ลูกค้า คู่ค้า ของบริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ

    บริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัท”) มีความตระหนักและได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ อย่างเคร่งครัด โดยบริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของกฎหมาย และบริษัทจะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนของบุคคลที่ได้รับจากท่านให้มีความปลอดภัย มีระบบการป้องกันการเข้าถึง เปิดเผย นำไปใช้ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต และจะไม่เปิดเผยข้อมูลไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดแก่บุคคล หรือหน่วยงานใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่านหรือเพื่อการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้เท่านั้น

    ดังนั้น เพื่อแจ้งและสร้างความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ รวมทั้งข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสิทธิตามกฎหมายของท่าน บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบถึงวัตถุประสงค์ รายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล วิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับมาจากท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านสามารถอ่านรายละเอียดและทำความเข้าใจข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
    อย่างไรก็ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้จะมีการแก้ไขปรับปรุงเป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และอาจมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่บริษัทจะใช้ดำเนินการเก็บรวมรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จึงขอให้ท่านติดตามประกาศความเป็นส่วนตัวเป็นระยะ นอกจากนี้ บริษัทจะทำการแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงที่สำคัญให้ท่านทราบผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางต่างๆ ตามที่บริษัทกำหนด

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
    บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมจากท่าน จากแหล่งข้อมูลอื่น หรือจากบริษัทในเครือ บริษัทลูก บริษัทอื่น พันธมิตรทางธุรกิจ หรือจากการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท
    1.1 ประเภทของข้อมูลที่จัดเก็บจะขึ้นอยู่กับการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ได้แก่
        1) ข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด ประวัติการศึกษา ข้อมูลในบัตรที่ทางราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน ใบอนุญาตขับขี่ สถานภาพการสมรส เป็นต้น
        2) ข้อมูลรายละเอียดสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่จดทะเบียน อีเมล์แอดเดรส หมายเลขโทรศัพท์ ไลน์ไอดี และบัญชีเฟสบุ๊ค เลขระบุตัวตน/เลขประจำตัวผู้ใช้งานในระบบออนไลน์ของท่าน
        3) ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ (เช่น โรคประจำตัว) ข้อมูลชีวมิติ (เช่น การจดจำใบหน้า) เป็นต้น โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูล และ/หรือโอน (ในประเทศหรือไปยังต่างประเทศ) ข้อมูลดังกล่าวได้ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่านหรือ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำไว้เท่านั้น
        4) ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ หมายเลขบัญชี หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
        5) ข้อมูลความสนใจของท่าน ได้แก่ ข้อมูลการสั่งซื้อ ความสนใจ ความชอบ งบประมาณ เหตุผล ในการเลือกซื้อ ข้อมูลความเห็นจากการตอบแบบสำรวจ รูปแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ท่านสนใจ งานอดิเรก กีฬา หรือการท่องเที่ยว เป็นต้น
        6) ข้อมูลรูปภาพที่สามารถระบุตัวตนได้ ได้แก่ ข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่าน และ/หรือทรัพย์สินของท่านที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด กล้องถ่ายภาพเมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ภายในอาคารสำนักงาน หรือสถานที่ที่อยู่ในความดูแล ของบริษัทและในงานกิจกรรม งานประชุม หรืองานสัมมนาต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น
        7) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น การใช้งานและพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยบริษัทอาจใช้คุกกี้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวมรวมข้อมูล หมายเลขไอพี ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการเข้าถึง หน้าเว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เยี่ยมชม เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บไซต์ของบริษัท และข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะที่ใช้งานเว็บไซต์ เป็นต้น
        8) ข้อมูลการตลาดและการสื่อสาร เช่น การตั้งค่าของท่านในการรับข้อมูลการตลาด รวมถึงข้อมูลการติดต่อ กรณีที่ท่านเข้ามาติดต่อทางแผนกลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายขาย หรือผ่านทางช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ เป็นต้น
    1.2 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
        – ผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัท เช่น เอกสาร เอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวาจา เป็นต้น
        – ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ของผู้ให้บริการอื่น เช่น Facebook Instagram และ Line เป็นต้น
        – ผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น การสอบถามหน่วยงานราชการ พันธมิตรของบริษัท เป็นต้น
    นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ เพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าถึงเว็บไซด์ หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่างๆ และหากข้อมูลสามารถกลับมาระบุตัวตนได้ จะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจะต้องใช้ตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
    ทั้งนี้ หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท (เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลดังกล่าว ข้อมูลความสัมพันธ์ของท่านกับบุคคลดังกล่าว) กรุณาแจ้งเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวรับทราบ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลผู้นั้นให้แก่บริษัทด้วย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมไว้จนกว่าท่านจะมีการถอนความยินยอม บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ออกจากฐานข้อมูลของบริษัทเมื่อท่านได้ขอถอนความยินยอมแล้ว โดยบริษัทจะพิจารณาดำเนินการตามที่ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    เว็บไซต์ของบริษัทอาจนำพาท่านไปสู่หน้าเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่ของบริษัทจากการเชื่อมต่อ ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์อื่นสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้ โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และบริษัทไม่สามารถรับผิดชอบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นจากหน้าเว็บไซต์อื่นนั้นได้ เว็บไซต์เหล่านี้อาจมีประกาศและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เป็นของตัวเอง ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อความเป็นส่วนตัวของท่าน บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของทุกเว็บไซต์ที่ท่านได้มีการเข้าเยี่ยมชม

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    เพื่อทำธุรกรรม กิจกรรม และ/หรือรายการใดๆ ตามความประสงค์ของท่าน และ/หรือให้บรรลุซึ่งจุดมุ่งหมายของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    2.1 วัตถุประสงค์ตามที่ต้องให้ความยินยอม : บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่บริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน และบริษัทจะใช้ข้อมูลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้เท่านั้น
    2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจอาศัยและใช้ฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทสามารถเก็บรวบรวม เปิดเผย ประมวลผลของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่
        (1) หลักพื้นฐานตามสัญญา เป็นข้อมูลที่ท่านให้ไว้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อเข้าทำสัญญา หรือข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวเหล่านี้กับบริษัท บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านประสงค์ หรือตามที่บริษัทแจ้งไว้ต่อท่าน หรือมีผลอื่นใดตามกฎหมาย
        (2) ฐานภาระหน้าที่ทางกฎหมาย บริษัทมีการเก็บรวบรวม เปิดเผย ประมวลผลของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายของบริษัท
        (3) ฐานผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และของบุคคลภายนอก เช่น การเก็บภาพของท่านในการจัดกิจกรรมต่างๆ การบันทึกภาพของท่านผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น
        (4) ฐานประโยชน์อันสำคัญเพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคล
        (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อปฏิบัติงานอันทำเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการ
    ดังนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกใช้ หรือเปิดเผยต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฎิบัติงานของบริษัท และการใช้ หรือเปิดเผยนั้นเพื่อประโยชน์ของท่าน และ/หรือเพื่อปฎิบัติตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้
    ทั้งนี้ กิจกรรมของบริษัทตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะใช้กับผู้เยาว์ และบริษัทไม่ได้มีเจตนาที่จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถหรือบุคคลไร้ความสามารถ หากท่านเป็นผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ ท่านจะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้พิทักษ์ของท่านก่อนจะติดต่อกับบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล จากผู้ใดที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยมิได้เจตนาและไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม หรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายของบุคคลดังกล่าวโดยมิได้เจตนา บริษัทจะลบข้อมูลนั้นทันที หรือจะทำการประมวลผลเฉพาะที่บริษัทสามารถใช้ฐานอื่นทางกฎหมายโดยที่ไม่จำต้องได้รับความยินยอม

3. รายละเอียดการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับ และบริษัทไม่มีนโยบายการขายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก หากมีความจำเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมาย บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่บุคคลที่มีสิทธิเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังต่อไปนี้
    3.1 บริษัทในกลุ่มธุรกิจ/บริษัทในเครือ
    ได้แก่ กลุ่มธุรกิจของบริษัท บริษัทในเครือ บุคคลที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนของบริษัท พันธมิตรของบริษัท
    3.2 บุคคลภายนอกรายอื่น
    บริษัทอาจมอบหมายให้บริษัทอื่น ตัวแทน หรือผู้ให้บริการภายนอกเข้าดำเนินธุรกิจแทนหรือช่วยบริษัทดำเนินธุรกิจ ดังนั้น บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ให้บริการภายนอก (Outsourcers) หรือคู่ค้าที่เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึง (1) ธนาคารและสถาบันการเงิน (2) ผู้ให้บริการในการจัดทำบัญชี (3) ผู้ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล (4) ผู้ให้บริการด้านงานบริหารจัดการงานภายใน (5) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (6) บริษัทประกันภัย (7) ผุ้ให้บริการรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด (8) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทที่ให้บริการสนับสนุน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ (9) ผู้ให้บริการด้านงานเอกสาร เป็นต้น
    ในการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ดี บริษัทจะให้ข้อมูลแก่ ผู้ให้บริการเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นแก่การให้บริการของผู้ให้บริการรายนั้นเท่านั้น และบริษัทได้ขอให้บุคคลดังกล่าวไม่จัดเก็บ ใช้เปิดเผย หรือโอน (ในประเทศหรือ ไปยังต่างประเทศ) ซึ่งข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น บริษัทจะกำกับดูแลให้ผู้ให้บริการที่ทำงานกับบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ให้ปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด
    3.3 หน่วยงานราชการ
    ในบางกรณีบริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามกฎระเบียบ ซึ่งหมายรวมถึงหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอกอื่นใดที่บริษัทเห็นว่า มีความจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่นั้นตามกฎหมายหรือตามกฎระเบียบ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือเพื่อความปลอดภัยส่วนตัวของบุคคลใด และเพื่อตรวจหา ป้องกัน หรือดำเนินการอันเกี่ยวกับการทุจริต ด้านความมั่นคงปลอดภัย
    3.4 ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญหมายความรวมถึง (1) ที่ปรึกษากฎหมายซึ่งให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและให้บริการ ด้านการต่อสู้คดีหรือฟ้องร้องคดี (2) ผู้สอบบัญชีซึ่งให้บริการด้านบัญชี หรือตรวจสอบบัญชีแก่บริษัท
    3.5 ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
    บุคคลภายนอกในฐานะผู้รับโอนสิทธิของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือการร่วมทุนในกิจการร่วมค้า โดยบุคคลดังกล่าวจะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อคุ้มครองต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
    บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก บริษัทแม่ บริษัทในเครือ/บริษัทลูกของบริษัทในต่างประเทศ หรือเซิร์ฟเวอร์ข้อมูล (Data Server) ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศซึ่งอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในระดับเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อกำกับดูแลให้การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัย และผู้ได้รับข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสม หรือมีข้อยกเว้นอื่นตามที่กฎหมายกำหนด หากมีการโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด

5. การใช้งานคุกกี้
    เว็บไซด์ของบริษัทมีการใช้งานคุกกี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงเว็บไซด์ที่ให้บริการ และสร้างข้อมูลโปรไฟล์เกี่ยวกับการเยี่ยมชมเว็บไซด์ของบริษัทโดยไม่มีการเข้าถึงฮาร์ดไดร์ฟของท่าน โดยคุกกี้จะทำให้บริษัทเข้าใจลักษณะการใช้งานเว็บไซต์เพื่อให้ท่านเข้าถึงสิ่งที่ท่านประสงค์ได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำไปพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูลและประมวลผลตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด
    5.1 ประเภทของคุกกี้
    บริษัทมีการใช้โปรแกรมคุกกี้ประเภทต่าง ๆ แบ่งตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทได้ทุกส่วน
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถวัดผล การทำงาน โดยประมวลจำนวนหน้าที่ท่านเข้าเยี่ยมชม ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะของ กลุ่มผู้เยี่ยมชมนั้นๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และจะนำผลลัพธ์ไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของ ผู้เยี่ยมชมได้ดียิ่งขึ้น
คุกกี้เพื่อการทำงาน คุกกี้ประเภทนี้ใช้จดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านเลือกในขณะใช้งานในเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง
คุกกี้เพื่อการโฆษณา คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและความสนใจของท่าน ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสม

    5.2 การลบคุกกี้
    ท่านสามารถลบคุกกี้ได้โดยศึกษาวิธีการต่างๆ ที่ระบุตามแต่ละเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้งาน โดยท่านสามารถจัดการฟังก์ชั่นคุกกี้ในการตั้งค่าของบราว์เซอร์ได้ เช่น การเลือกปิดคุกกี้บางประเภทตามที่ท่านต้องการ หากท่านต้องการทราบวิธีการจัดการฟังก์ชั่นคุกกี้ โปรดไปยังเมนูช่วยเหลือในเว็บบราวน์เซอร์ของท่าน โดยการปิดฟังก์ชั่นคุกกี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของท่านในการทำธุรกรรม การใช้ฟังก์ชั่น และการเข้าถึงเนื้อหาบางอย่างบนเว็บไซด์ของบริษัท

6. ความปลอดภัยของข้อมูลและระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทมีมาตรการรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลที่ได้ทำการจัดเก็บ จะใช้ความระมัดระวัง และป้องกันอย่างเต็มที่ จำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล จะไม่อนุญาตให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
    พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท (Supplier / Outsource / Service Provider) มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล กรณีมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อทำตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ขอข้อมูลดังกล่าว และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามกฎระเบียบของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลานานขึ้นหากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ทำเช่นนั้น ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระบบที่บริษัทกำหนดไว้

7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตัวท่านเอง ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้การบังคับใช้ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อยกเว้นของกฎหมายดังกล่าว ท่านอาจใช้สิทธิดังต่อไปนี้
    7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access)
    ท่านอาจใช้สิทธิในการขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย เกี่ยวกับตัวท่าน ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน บริษัทอาจกำหนดให้ท่านพิสูจน์ตัวตนก่อนจะให้ ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านขอ
    7.2 สิทธิการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to transfer)
    ท่านอาจใช้สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติ และขอให้ส่งหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นในกรณีที่ 

(ก) เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ส่งให้บริษัท (ข) ให้บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามสัญญาของบริษัทที่ทำกับท่าน

    7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
    ท่านอาจใช้สิทธิคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างของท่าน โดยร้องขอต่อผู้ควบคุมข้อมูล เว้นแต่การดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งหรือใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้การเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย
    7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)
    ท่านอาจใช้สิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือกระทำการให้ไม่สามารถระบุตัวตนในข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยเกี่ยวกับท่านได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องดำเนินการเช่นนั้น หากบริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งหรือใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้การเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย
    7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to withhold)
    ท่านอาจใช้สิทธิขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)
ท่านอาจใช้สิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือไม่ได้ปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยเกี่ยวกับท่านให้ถูกต้อง
    7.6 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to withdraw consent)
    ท่านอาจใช้สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลของท่านและบริษัทจะหยุดประมวลผลข้อมูลดังกล่าวของท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่แม้ว่าการประมวลผลจะไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่การเก็บรักษา ข้อมูลนั้นไว้ยังคงจำเป็นเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ 1) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือ 2) ข้อมูลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องหรืออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า กรณีเช่นนี้บริษัทจะยังเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงเท่าที่จำเป็น
สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน (Right to lodge a complaint)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสงสัยหรือมีความกังวลใจในแนวทางปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับ การเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทในกรณีที่มีเหตุ หรือมีข้อสงสัยว่าบริษัท ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างของบริษัท ได้ฝ่าฝืนว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาแจ้งผลพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าว ซึ่งบริษัทอาจจะปฏิเสธคำร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    8. แนวปฏิบัติกรณีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ใดที่พบเห็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อบริษัทเพื่อแจ้งการละเมิดดังกล่าวผ่านช่องทางติดต่อที่ระบุไว้ โดยฝ่ายบุคคลของบริษัทจะพิจารณารวบรวมข้อมูลและแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ หากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจกระทบสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล รวมถึงแจ้งไปยังเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบถึงเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็วที่สุด

    9. รายละเอียดสำหรับติดต่อบริษัท
    หากท่านมีความประสงค์จะติดต่อบริษัทเพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัท 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
All search results